“เดอะทอย” จากเด็กที่ติดเกมส์ กลายเป็นศิลปินที่โด่งดังทัดเทียมกับรุ่นพี่ ต้องยอมรับเลยว่ามีทักษะครบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง หรือการแต่งเพลง เขาคนนี้ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นมาแล้วว่าเก่งขนาดไหน ด้วยการคว้ารางวัลในระดับสากล “2018 MAMA Premiere in Korea” การที่จะได้รางวัลแบบนี้ย่อมไม่ใช่คนหน้าไหนที่จะทำได้ ความเก่งของเขานั้น จะเรียกว่า “อัจฉริยะ” หรือ “พรสวรรค์ เลยก็ได้ บวกกับความพยายามที่ไม่ย่อท้อ ทำให้เขาเป็นศิลปินที่มีผลงานเพลงดีๆ ออกมาให้แฟนเพลงได้เคลิ้มกันอยู่เป็นประจำ ในวันนี้เราจะลองมารู้จักกับเดอะทอยกันให้มากขึ้นกว่าเดิม รู้จักกับเรื่องราวของ “เดอะทอย” ธันวา บุญสูงเนิน เกิดมาในครอบครัวศิลปินแท้ๆ แม่ของเขาคือ “นิตยา บุญสูงเนิน” เจ้าของผลงานเพลง จำเลยรัก และผลงานเพลงอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นหลานของ เจินเจิน บุญสูงเนิน เจ้าของบทเพลง “ต้องสู้จึงจะชนะ” เรียกได้ว่าเก่งกันทั้งตระกูลจริงๆ แถมคุณพ่อของทอยก็ยังเป็นนักดนตรีฝีมือดีอีกด้วย ด้วยบรรยากาศของครอบครัวสายเลือดศิลปิน ทำให้เขาก็เริ่มซึมซับมรดกของตระกูล รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากคนรอบข้าง เขาเริ่มฝึกฝนเล่นดนตรีตั้งแต่เด็ก จนได้ไปเข้าร่วมงานประกวดหลายครั้ง ด้วยทักษะและพรสวรรค์ที่เต็มเปี่ยม ทำให้ทอยได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลในเวทีระดับประเทศ เวลาที่เขาจะไปประกวด ทอยก็มักจะต้องลำบากไปยืมกีตาร์ของเพื่อนมาใช้ เพราะว่าของเขานั้นโดนคุณแม่เอาไปทิ้งแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาติดกีตาร์หนักจนเกินไป เล่นมันทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว …

กระแสแนวเพลงในแต่ละช่วงเวลาย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการฟังเพลงของคนส่วนใหญ่ หากย้อนกลับไปราวๆ 20 กว่าปีที่แล้วกระแสเพลงในบ้านเราต้องยกให้กับอัลเทอร์เนทีฟที่ช่วงนั้นครองตลาดเพลงไทยจนมีวงดนตรีดังๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ โมเดิร์นด็อก, สไมล์บัฟฟาโล่, พราว และอื่นๆ อีกเพียบ หลังยุคอัลเทอร์ฯ ได้ซาลงไปก็มาสู่ช่วงของกระแสเพลงร็อกที่โด่งดังและมาแรงสุดๆ วงอย่างบิ๊กแอส, ซิลลี่ ฟูลส์, บอดี้สแลม, ต่างก็เกิดในยุคถัดมา แนวเพลงต่างๆ ไล่มาเรื่อยตามยุคสมัยอย่างหลังยุคร็อกก็จะเป็นป็อปร็อก, ฮิพฮอพ, อินดี้, ต่างๆ นานๆ กระทั่งปัจจุบันแนวเพลงใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมาอีกเพียบ แนวเพลงที่มาแรงในปี 2018 สำหรับปี 2018 นี้ต้องบอกว่านักฟังเพลงหลายๆ คนเชื่อในใจลึกๆ ถึงแนวทางการทำเพลงของศิลปินน่าจะสร้างอะไรแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงบ้านเราได้ นั่นรวมไปถึงแนวเพลงที่คาดว่าน่าจะมาแรงในช่วงปี 2018 ด้วย จากการคาดการณ์แล้วแนวเพลงที่น่าจะมาในปีนี้ถูกเรียกว่าแนว Electronic หรือบางคนก็เรียกว่า Synth-Pop ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าดนตรีแนว Synth-Pop เป็นกระแสแนวดนตรีที่เริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่ช่วงปี 2017 แล้วเพียงแต่ว่ายังไม่ได้เกิดกระแสอย่างจริงจังมากมายเท่านั้นเอง ทว่าในช่วงหลังผ่านปี 2017 เรื่อยมาเรามักจะเห็นแนวเพลงสไตล์นี้กันมากขึ้น คำถามคือ Synth-Pop คือแนวเพลงอะไร Synth-Pop หรือ Electronic เป็นแนวเพลงที่เน้นเรื่องการใช้เสียงเครื่องสังเคราะห์เข้ามาอยู่ในเพลงมากขึ้น …

ต้องยอมรับว่ายุคนี้กระแสเพลงในเมืองไทยซบเซาลงไปค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งก็มาจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปข้างหน้ามากขึ้นทำให้การหาฟังเพลงเป็นเรื่องง่ายกว่าแต่ก่อน หากเป็นศิลปินในอดีตเวลาเลือกทำเพลงก็ต้องทำเพลงกันทีเป็นครึ่งปีหรือบางอัลบั้มกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้เวลาร่วมปี ดังนั้นพอผลงานมันผลิดอกออกผลจึงมักได้รับกระแสการตอบรับอย่างยอดเยี่ยม ผิดกับเพลงสมัยนี้ที่ต้องปล่อยออกมาทีละซิงเกิล ศิลปินบางปล่อยมาแล้วดังเปรี้ยงแต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว บางคนก็ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาจนโด่งดัง อย่างเวลานี้เพลงที่กำลังอยู่ในกระแสและได้รับความนิยมมากก็คือ หลอกให้รัก จากวงอย่าง The Mousses หลอกให้รัก เพลงโดนใจวัยรุ่นจาก The Mousses ถ้าเป็นสมัยก่อนการที่ศิลปินออกเพลงหรืออัลบั้มมาสัก 1 ชุดความสำเร็จจะวัดกันตรงยอดขายอัลบั้มแต่ในยุคนี้ในเมื่อเพลงของศิลปินไม่ได้ถูกทำออกมาทั้งอัลบั้มอีกต่อไปแต่เลือกทำมาทีละเพลงการจะรู้ได้ว่าเพลงไหนประสบความสำเร็จหรือไม่นอกจากต้องฟังติดหูแล้วเขาใช้วิธีการดูยอดวิวในเว็บอย่าง Youtube เป็นหลัก ซึ่งกระแสแนวเพลงในแต่ละช่วงเวลาก็ต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าเพลงไหนสามารถเกาะกระแสได้ หนึ่งเพลงที่ต้องบอกว่าเข้าถึงวัยรุ่นได้ไม่น้อยด้วยความหมายของเพลงที่กระแทกอารมณ์ ดนตรีฟังสบายๆ น้ำเสียงคนร้องนุ่มนวลจึงทำให้เพลงหลอกให้รักจาก The Mousses เข้าไปนั่งอยู่ในใจคนฟังแบบไม่ต้องคิดมาก เอาง่ายๆ ว่าต่อให้ไม่เคยรู้ว่าเพลงนี้ใครคือคนร้องแต่คนที่ฟังผ่านๆ หูต้องฮัมได้อย่างแน่นอน ต้องบอกว่าอาจเป็นผลมาจากเมื่อเราเปิดเพลงออนไลน์ได้เราสามารถเลือกฟังเพลงน่าฟังตามต้องการได้ พูดง่ายๆ คือมีสิทธิ์ในการเลือกฟัง ยิ่งเพลงไหนมียอดวิวเยอะๆ มีกระแสดีๆ เพลงนั้นก็จะได้ขึ้นหน้าแนะนำของเว็บสร้างโอกาสให้คนกดเข้าดูสูงกว่าเก่า เช่นกันกับเพลงหลอกให้รักของ The Mousses ที่ได้รับความนิยมอยู่ในเวลานี้นั่นเอง สำหรับเพลงหลอกให้รักเป็นผลงานซิงเกิลล่าสุดจกวง The Mousses แต่งคำร้องและทำนองโดย อธิศ อมรเวช เรียบเรียงโดย The Mousses และ ดนัย ธงสินธุศักดิ์ ถือว่าเป็นผลงานเพลงน่าสนใจที่ปลุกกระแสการฟังเพลงของหลายๆ …

ยุค 70-80 เป็นช่วงเวลาที่วงการเพลงคึกคักกันมาก ว่ากันว่าเป็นช่วงที่แนวเพลงจากสมัยก่อนได้พลิกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและเพลงจากในยุคนี้จำนวนมากได้กลายมาเป็นเพลงอมตะที่ยังคงมีการนำมา Cover หรือกลับมาร้องใหม่กันมาก ศิลปินชื่อก้องโลกหลายคนที่ยังคงมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้ก็ได้เริ่มสร้างชื่อกันในช่วงนี้กันมาก ไม่ใช่แค่แนวเพลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเป็นผู้มีอิทธิพลต่อสไตล์การแต่งตัว แฟชั่น และแนวทางอื่นๆที่ทำให้ศิลปินรุ่นหลังๆเดินตามรอยกันมา อาจเป็นเพราะยุคนี้โทรทัศน์เริ่มมีติดตั้งกันประจำแต่ละบ้านมากขึ้นนั่นเอง ทำให้การรับสื่อต่างๆเข้าถึงง่ายขึ้น ค่ายเพลงยังคงมีบทบาทในการนำเสนอเพลงของเหล่าศิลปิน ซึ่งจะแตกต่างไปจากในยุคโซเชียลที่ใครๆก็สามารถร้องและเล่นเพลงที่ตัวเองแต่งแล้วโชว์ผ่านยูทูปกันง่ายๆ มาดูกันว่า มีแนวเพลงแบบไหนบ้างที่เกิดขึ้นในยุคนี้ ช่วงรอยต่อระหว่างยุค 60-70 เป็นช่วงเวลาสุดท้ายของราชาเพลงร็อก Elvis Presley ศิลปินเพลงร็อกที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกตะวันตก ไม่ใช่แค่แนวเพลงร็อกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสไตล์การแต่งตัว การใส่เยล ทำทรงผม กลายเป็นสัญลักษณ์วัยรุ่นยุคนั้นคลั่งไคล้มาก ขณะเดียวกัน เมื่อเข้าสู่ปลายยุค 70 คงไม่มีผู้ชื่นชอบเสียงดนตรีคนไหนที่จะไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อของ Jackson 5 วงเด็กหนุ่มผิวดำพี่น้องทั้ง 5 คน ซึ่งสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว แล้วหนึ่งในนั้นก็เติบโตกลายมาเป็นราชาเพลง Pop ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นั่นคือ Michael Jackson เมื่อเขาเริ่มทำอัลบั้มเดี่ยวออกมาครั้งแรก ก็โด่งดังข้ามทศวรรษมาจนถึงยุค 80 ผลงานชุดใหม่ที่ทั้งสุดแหวกแนว พิลึก แต่ก็ยอดเยี่ยมและตราตรึงสุดๆก็คือ Thriller ส่งให้ชื่อของ Michael Jackson แล้วยังสานต่อมาด้วยอัลบั้ม Bad …